READING

สอนวิธีดื่มกาแฟช่วงลดน้ำหนักแบบคลีนๆ ที่คอกาแฟทั้ง...

สอนวิธีดื่มกาแฟช่วงลดน้ำหนักแบบคลีนๆ ที่คอกาแฟทั้งหลายต้องห้ามพลาด!

ดื่มกาแฟช่วงลดน้ำหนัก

ใครๆ ก็อยากมีรูปร่างที่สวยงามด้วยกันทั้งนั้น แต่ว่าอาหารการกินในปัจจุบันก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ ที่มาขัดขวางการมีหุ่นสวยของพวกเราอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีปริมาณไขมันและน้ำตาลสูงอย่างอาหารจานด่วน ที่เป็นที่นิยมกันในยุคนี้ รวมไปถึงกาแฟเย็น ที่ไม่ว่าจะเดินไปตามซอกมุมไหนในเมือง ก็มีขายอยู่ทั่วหัวระแหง เฮ้อ! แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะสวยสักทีล่ะเนี่ย?!!?

เช้ามาก็ดื่มกาแฟให้ตื่นตัว จะได้แรงทำงาน พอบ่ายมาเริ่มง่วง ก็ต้องจัดกาแฟแก้วที่สอง ถึงตอนเย็นออกไปกินข้าว ก็อาจจะมีกาแฟแก้วที่สามตามมาได้ แล้วรู้รึเปล่าว่าในกาแฟแต่และแก้วนั้นมีทั้งนม ครีม และน้ำตาลเป็นส่วนประกอบอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ ซึ่งเจ้าส่วนผสมเหล่านี้อุดมไปด้วยแคลอรี่ที่สูงมากๆ เลย

นี่ยังไม่รวมแคลอรี่จากวิปครีม ไซรัป และเยลลี่ที่เพื่อนๆ ชอบสั่งกันเพิ่มเติมเข้าไปด้วยนะ คิดแล้วก็เวียนหัวเลยทีเดียว ถ้าดื่มแบบนี้กันเข้าไปทุกวัน ต่อให้ออกกำลังกายหนักแค่ไหน ยังไงก็คงจะหนีคำว่าอ้วนไปไม่พ้นแน่ๆ เลย

ดังนั้นวันนี้ดาวจะมาแนะนำเมนูกาแฟทั้ง 5 เมนูพร้อมบอกปริมาณแคลอรี่ที่จะได้รับ สาวๆ จะได้คำนวณกันว่า วันนี้จะดื่มอะไรดี จะได้รับพลังงานไม่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันค่ะ

จริงอยู่ที่บางคนบอกว่ากินกาแฟแล้วลดน้ำหนักได้ แต่ต้องเป็นกาแฟที่ไม่มีส่วนผสมของครีม นม และน้ำตาลนะ พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องเป็นกาแฟดำนั่นเอง จึงจะช่วยให้ระบบเผาพลาญของเราทำงานดีขึ้น โดยที่ตัวมันจะไม่ไปเพิ่มน้ำหนักของสาวๆ ให้พุ่งปรี๊ดตามไปด้วย

ซึ่งเมนูแรกที่เราจะนำเสนอก็คือ กาแฟเอสเปรสโซ่

เมนูนี้เป็นกาแฟดำเข้มข้น มาทีเป็นช็อตเล็กๆ เป็นกาแฟล้วนๆ ให้พลังงานเพียง 13 กิโลแคลอรี่เท่านั้น จะดื่มมากแค่ไหนก็ไม่มีอ้วน แต่ต้องระวังว่าจะดื่มมากไปจนปริมาณคาเฟอีนในร่างกายมากเกินไปก็ได้นะ ทางทีดี ดื่มวันนึงไม่ควรเกิน 3 ช็อต จึงจะส่งผลดีต่อร่างกายของเรามากที่สุดนะคะ

ซึ่งถ้าใครดื่มกาแฟช็อตนี้เข้าไป ก็แค่ไปออกกำลังกายแบบเบาๆ อย่างเช่นการทำท่ากายบริหาร หรือเดินเร็วเพิ่มอีกประมาณ 5 นาที ก็สามารถเผาพลาญพลังงานจากกาแฟแก้วนี้ออกไปได้หมดแล้วล่ะ

ตามติดมาด้วยเมนูที่ 2 กาแฟอเมริกาโน่

กาแฟอเมริกาโน่นั้นให้พลังงานต่ำเช่นเดียวกับกาแฟเอสเปรสโซ่ เพียงแต่จะไม่เข้มข้นเท่า โดยกาแฟอเมริกาโน่ไซส์มาตรฐาน 1 แก้วนั้น จะให้พลังงานอยู่ที่ 15 กิโลแคลอลรี่ เพราะกาแฟอเมริกาโน่ จะมีส่วนผสมของน้ำเปล่าลงไปด้วย ทำให้รสชาติของกาแฟนั้นเจอจางลง แต่ยังคงความหอมอมเปรี้ยวของเมล็ดกาแฟคั่วบดแท้ๆ เอาไว้นั่นเอง ซึ่งคุณก็สามารถเผาผลาญพลังงานทีได้รับจากกาแฟอเมริกาโน่ 1 แก้ว ออกได้หมด ด้วยการออกกำลังกายต่อเนื่องนาน 6 นาที แค่ปั่นจักรยานช้าๆ รอบหมู่บ้านสักรอบก็เป็นอันใช้ได้แล้วล่ะ

แต่ถ้าหากว่าใครทนความขมของกาแฟดำไม่ได้แล้วล่ะก็ ลองมาดื่มกาแฟคาปูชิโน่ ดูก็ได้นะ

ถ้าจะให้พูดถึงกาแฟคาปูชิโน่แล้วล่ะก็ สาวๆ จะคิดถึงอะไรเป็นอย่างแรกคะ สำหรับดาวแล้ว ดาวชอบกลิ่นหอมของกาแฟ และรสชาติที่มีขมจนเกินไป แถมยังมีฟองนมนุ่มๆ อยู่ข้างบน เวลากินอาจจะดูเลอะเทอะนิดหน่อย เพราะฟองนมอาจจะเปื้อนบริเวณริมฝีปาก แต่ว่ามันก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการดื่มกาแฟชนิดนี้

แต่ถ้าหากจะพูดถึงจำนวนแคอลรี่ที่จะได้รับจากกาแฟแก้วนี้แล้วล่ะก็ ก็ยังถือว่าไม่มากมายจนเกินไปนัก เพราะมันให้พลังงานเพียง 120 กิโลแคลอรี่ ซึ่งถ้าหากว่าออกไปเต้นแอโรบิกความเร็วปานกลางประมาณ 43 นาที ก็สามารถเผาพลาญพลังงานส่วนนี้ออกได้จนหมดแล้วล่ะ ถือได้ว่าไม่ใช่ตัวเลือกที่ทำร้ายร่างกายของเราจนเกินไปนัก แถมถ้าใครไม่ใส่น้ำตาลลงไปเพิ่มแล้วล่ะก็ กาแฟคาปูชิโน่ก็เป็นกาแฟอีกตัวหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากๆ เลยล่ะ

ต่อมาคือกาแฟที่มีรสชาติดี ซึ่งมีแคลอรี่ต่ำเหมือนกัน กาแฟลาเต้ นั่นเอง เมนูโปรดของดาวเลย

กาแฟลาเต้นั้นเป็นกาแฟที่มีความสนุกสนานอยู่ในตัว เพราะนอกจากที่เราจะได้ชิมรสชาติที่กล่อมกล่อมของกาแฟแล้ว ยังดละเอลียดฟองนมนุ่มๆ ที่มาพร้อมกับลายลาเต้อาร์ทให้ชุ่มปอดกันอีกด้วย นับได้ว่ามีคุณค่าทั้งทางกายและทางใจจริงๆ เลยนะเนี่ย โดยกาแฟลาเต้นั้นมีส่วนผสมเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น ก็คือกาแฟและนม ถ้าใครอยากได้รสหวาน ก็ต้องเติมไซรัปเข้าไปเอง สำหรับกาแฟลาเต้สูตรมาตรฐานนั้นมีแคลลอรี่อยู่ที่ 190 กิโลแคลอรี่ แต่ถ้าเกิดเติมไซรัปเข้าไปแล้ว จำนวนแคลอรี่ที่ได้รับจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 500 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว

ดังนั้นถ้าอยากดื่มกาแฟลาเต้แบบสวยๆ และไม่กลัวอ้วนแล้วล่ะก็ ครั้งหน้าเวลาสั่งกาแฟก็อย่าเผลอเพิ่มไซรัปเข้าไปล่ะ เพราะพลังงานที่ได้รับจากการดื่มนมนั้นเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเช่นเดียวกัน และร่างกายสามารถนำเป็นเผาผลาญเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย แถมยังเป็นอีกหนึ่งหนทางป้องกันการสูญเสียแคลเซียมในกระดูกจากการดื่มสารคาเฟอีนเข้าไปในร่างกายอีกต่างหาก เพราะฉะนั้น เราจึงแนะนำให้ดื่มกาแฟลาเต้เป็นประจำ โดยกาแฟลาเต้นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของการดื่มกาแฟเลยก็ว่าได้

และถ้าหากว่าคุณดื่มกาแฟลาต้เข้าไป 1 แก้ว คุณก็จะต้องออกกำลังกายนามอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ถึงจะสามารถรีดพลังงานส่วนเกินที่คุณดื่มเข้าไปออกมาได้หมด

มาถึงกาแฟยอดฮิตอย่างที่ 5 ที่สาวๆ ชอบสั่งกันแล้ว กาแฟมอคค่า ยังไงล่ะ

กาแฟมอคค่านั้นเป็นกาแฟที่ให้พลังงานสูงสุดในบรรดากาแฟทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะในการแฟ 1 แก้วนั้น กาแฟมอคค่าให้พลังงานไม่ต่ำกว่า 330 กิโลแคลอรี่เลยค่ะ ยิ่งใครสั่งแบบเป็นกาแฟเย็น เพิ่มไซรัปและแถมวิปครีมมาอีกล่ะก็ งานนี้แคลอรี่อาจจะพุ่งทะยานไปถึง 650 กิโลแคลอรี่ หรือเท่ากับน้ำอัดลมจำนวน 4 กระป๋องที่เดียวเชียวนะเออ

เพราะฉะนั้น ใครที่สั่งกาแฟมอคค่ามาดื่มแล้วล่ะก็ ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเลยนะว่า ต้องไปออกกำลังกายเบิร์นพลังงานส่วนเกินออก โดยใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ต่อกาแฟ 1 แก้วเลยล่ะ ซึ่งการออกกำลังกายในแต่ละวันนั้น ไม่ควรเกินวันละ 2 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าอาหารอื่นๆ ที่คุณทานเข้าไปในวันเดียวกัน จะไม่ได้ถูกเผาพลาญออกไปในขณะออกกำลังกายเลยนะ

ดังนั้นต่อไปนี้จะดื่มกาแฟมอคค่าทุกวันไม่ได้ แต่ถ้าอดไม่ไหวจริงๆ ดาวอนุญาตให้ดื่มได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น แต่ทางที่ดีทุกสุด ดาวว่าสาวๆ น่าจะเปลี่ยนไปลองกาแฟตัวอื่นที่มีปริมาณแคลอรี่ต่ำกว่านี้ จึงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านะคะ

นอกจากนี้แล้ว สาวๆ ก็ควรจะทราบถึงส่วนผสมพื้นฐานของเครื่องดื่ม หวานๆ เย็นๆ เมนูอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยเมนูเด็ดๆ ที่มีคนสั่งบ่อยๆ ก็มีดังนี้ค่ะ

  • น้ำตาลทราย (1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 45 กิโลแคลอรี่ )
  • นมข้นหวาน (1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 60 กิโลแคลอรี่ )
  • นมข้นจืด (1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 43 กิโลแคลอรี่ )
  • ตัวกาแฟ ชา และผงโกโก้ (ให้พลังงานไม่เกิน 30 กิโลแคลอรี่ / แก้ว )ลองคิดดูนะคะ บางคนอร่อยพรีเมี่ยม สั่งมันๆเพิ่มนมเข้าไปอีก หวานๆ
  • มันๆ เพิ่มน้ำตาลและนมเข้าไปอีกอ้วนพรีเมี่ยมได้อีกสิคะคุณ! แล้วแก้วที่คุณชอบล่ะ อ้วนเท่าไหร่
  • กาแฟเย็น ให้พลังงาน 317 กิโลแคลอรี่
  • โกโก้เย็น ให้พลังงาน 334 กิโลแคลอรี่
  • ชาเขียวนมเย็น ให้พลังงาน 319 กิโลแคลอรี่
  • ชานมเย็น ให้พลังงาน 319 กิโลแคลอรี่
  • นมเย็น ให้พลังงาน 425 กิโลแคลอรี่
  • โอเลี้ยง ให้พลังงาน 103 กิโลแคลอรี่
  • ชาเย็น หรือชามะนาว 100 กิโลแคลอรี่

โอ้โห เห็นตัวเลขชัดเจนขนาดนี้แล้ว ต่อไปเวลาจะสั่งเมนูหวานเย็นเมนูไหน ก็อย่าลืมคำนวณแคลอรี่ก่อนสั่งกันด้วยแล้วกัน ไม่อย่างนั้นไม่แค่แค่สาวๆ ร่างเพรียวบางจะกลายเป็นสาวเจ้าเนื้อ แต่ว่าโรคเบาหวาน และไขมันอุดตันในเส้นเลือดก็อาจจะถามหาด้วยนะเออ


เป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ชอบทำอาหาร ชอบอ่านหนังสือที่ไม่ใช่หนังสือเรียน หาเวลาเที่ยวตลอดเวลา รักทะเล ภูเขา ติดกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ และเขียนบล็อกเพราะอยากให้ทุกคนที่ได้อ่านหันมาดูแลสุขภาพ ได้แรงบันดาลใจ และรู้จักเพื่อนใหม่ๆ

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

  1. Tigejin

    6 February

    แนะนำให้ดื่ม cold brew หรือ drip ครับ มันใช้กระดาษกรองจะไม่ค่อยมีไขมันลงไปด้วย
    ดื่มสดชื่นในวันอากาศร้อนๆดับกระหายได้ดีแถม คาเฟอีนยังสูงกว่า espresso หรือกาแฟใส่นมด้วยครับ
    สารละลายจะละลายออกมาราวๆ TDS 1.4 เปอร์เซนต์เองครับ ส่วน TDS ในกาแฟคืออะไรอ่านเพิ่มได้ในเว็บ http://www.coffeelearner.com นะครับ

Your email address will not be published. Required fields are marked *