สวัสดีค่ะชาวฟิตกับดาวเป็นอย่างไรกันบ้าง หวังว่าพี่ๆน้องๆที่ติดตามทุกคนคงสบายดีและมีสุขภาพที่แข็งแรงถ้วนหน้านะคะ แน่นอนค่ะว่าหลายๆคนที่กำลังติดตามดาวอยู่นั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นสายสุขภาพที่รักการดูแลตัวเองและมอบแต่สิ่งดีๆมีประโยชน์ให้กับร่างกายซึ่งเป็นสิ่งที่ดาวอยากให้ทุกคนทำเพราะร่างกายของเราเป็นสิ่งเดียวที่เราจะอยู่กับมันไปตลอดชีวิตดังนั้นต้องดูแลรักษาให้ดีๆ
วันนี้เราจะดูกันว่าออกกำลังกายด้วยตัวเองกับการมีเทรนเนอร์มันต่างกันอย่างไรเพื่อที่เราจะได้มีข้อมูลเพียงพอกับการตัดสินใจค่ะ ซึ่งดาวเคยเขียนแนวๆนี้แล้วที่ 7 ข้อดีของการมี Personal Trainer ดูแลเป็นการส่วนตัว เป็นบทความที่พูดถึงเจ็ดข้อดีของการมีเทรนเนอร์ส่วนตัว
นอกจากบทความข้างต้นแล้ว สิ่งที่ดาวอยากจะเขียนถึงก็คือ สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณต้องการเทรนเนอร์ค่ะ ซึ่งต้องขอเกริ่นตรงนี้เลยว่าหลายคนอาจจะออกกำลังกายเองได้แต่ไม่ใช่ทุกคนนะคะ อย่างไรก็ตามการตัดสินใจขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนด้วยค่ะ
มาเข้าบทความของเรากันเลยดีกว่า เป็นเหมือนกันไหมค่ะว่า ลดน้ำหนักมานานแต่ยังไม่เห็นผลเสียที บางทีก็คิดนะว่าต้องรอนานกว่านี้หรือปล่าวแต่ แต่ แต่! ผ่านเป็นปีก็ยังไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลง หรือไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์อย่างการออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้านแล้วรู้สึกเจ็บตามข้อต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของผลเสียของการออกกำลังกายด้วยตัวเองโดยไม่มีผู้แนะนำค่ะ ซึ่งสำหรับบางคนการออกกำลังกายเองนั้นแล้วเกิดผล ต้องชื่นชมมากๆเลย
แต่สำหรับอีกหลายๆคนที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือมีข้อผิดพลาดอะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่สามารถแก้ไขเองได้นั้นก็ไม่ต้องท้อค่ะ ในยุคสมัยนี้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่าเคย มีข้อมูลหลายแหล่งให้ศึกษาแถมยังฟรีอีกด้วย รวมไปถึงมีเทรนเนอร์ที่เจอในทั้งชีวิตจริงและโลกออนไลน์ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายและจับต้องได้มากกว่ายุคก่อนค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกว่าจะออกกำลังกายเองหรือเลือกมีผู้เชี่ยวชาญดูแลนั้นเรามาดูกันเลยค่ะว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่บ่งบอกว่า เราต้องการผู้เชี่ยวชาญดูแลแล้วหล่ะ
1. คุณมีอาการบาดเจ็บ ปวดตามไขข้อต่างๆทุกครั้งที่ออกกำลังกาย
หากเราเริ่มออกกำลังกายเริ่มต้นเป็นปกติค่ะที่เราจะมีอาการปวดเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆของร่างกาย เป็นไปได้ค่ะว่าคุณออกกำลังกายแบบผิดวิธีหรือออกกำลังกายไม่เหมาะสมกับร่างกายของตนเอง เพราะฉะนั้นหยุดซักนิดนะคะศึกษาหาข้อมูลก่อนที่จะเดินไปต่อหรือจะเลือกปรึกษาหรือว่าให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลก็ได้ค่ะ เพราะหากปล่อยไว้แทนที่จะได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้วละก็เราอาจจะบาดเจ็บกลับมาเสียมากกว่านะคะ
2. คุณไม่พบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ใจต้องการเสียที
เราอาจจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกายก็จริงค่ะ แต่เรามองไม่เห็นฝั่งทั้งๆที่เราพายเรืออย่างหนักมาตลอด เจอแบบนี้ก็งงใช่ไหมหล่ะค่ะ พยายามพายอย่างต่อเนื่องมาตลอดแต่ทำไมไม่ถึงซักทีหนทางมันไกลขนาดนั้นเชียว
เอาเป็นว่าลองดูดีๆไหมว่าเข็มทิศที่ใช้นำทางมันดีจริงๆหรือเปล่า เรารู้ว่าออกกำลังกายมันต้องใช้เวลากว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่เถียงค่ะเพราะว่ามันจริง เหมือนกับที่ก่อนเราจะรู้ตัวว่าบวมขนาดนี้เราต้องใช้เวลาทานมามากกว่าสิบปี
ตอนเอาออกก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน แต่สิ่งนึงที่อยากจะให้พิจารณาคือ มันใช้เวลานานไปหรือเปล่า อย่างเช่นออกมาเป็นปีแล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถามจริง? ถ้านานขนาดนั้นแล้วไม่เห็นผลเราทำอะไรผิดรึปล่าว หรือไปยึดถือตามอ่านแนวทางที่ผิดๆมาทำให้ไม่เห็นผลซักที งั้นลองเอางี้ไหม ปรึกษาเทรนเนอร์ที่รู้จริงและเราไว้ใจ รับรองว่าเราจะมองเห็นฝั่งในเร็ววันค่ะ
3. คุณไม่สามารถจัดการเวลาตัวเองได้
ดาวว่ามากคนค่ะที่มักอ้างเหตุผลที่ว่า ไม่มีเวลา ซึ่งความจริงเรื่องแบบนี้ไม่มีอยู่จริงหรอกค่ะ มันอยู่ที่ว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่า ซึ่งแน่นอนค่ะน้อยคนที่จะให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายหากว่ามีชีวิตงานและส่วนตัวที่วุ่นวายมากพออยู่แล้ว
ซึ่งถ้าคุณเป็นคนหนึ่งในนั้นการมีเทรนเนอร์ช่วยให้คำปรึกษาและจัดตารางเวลาที่เหมาะสมให้กับคุณก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลยค่ะ นอกจากเราจะมีตารางเวลาที่เหมาะสมแล้ว เรายังได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและหุ่นที่สวยงามเป็นของแถมอีกด้วย แจ่มสุดๆไปเลย
4.คุณเป็นคนผ่อนปรน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จคือการผ่อนปรนกับตัวเองมากไปค่ะ ก็แน่นอนอยู่แล้วว่าหากเราออกกำลังกายและควบคุมการทานด้วยตนเอง คนๆเดียวที่จะคอนโทรลเราได้ก็คือตัวเราเองซึ่งแน่นอนว่าใครทำได้นั้นแจ่มสุดๆ
แต่หากคุณเป็นคนผ่อนปรนกับตัวเองประเภทที่ เห้ยไม่เป็นไรพรุ่งนี้ค่อยออก ทานๆไปเถอะมื้อเย็นค่อยลด คำเหล่านี้ การที่คุณผ่อนปรนกับตัวเองแบบนี้พังมากี่ครั้งแล้วเอ่ย ลองอย่างนี้มั้ยให้ใครซักคนช่วยเหลือคุณให้ไปถึงปลายทาง คอยบังคับ คอยกำชับให้คุณไม่ลืมว่าเป้าหมายคุณคืออะไร รับรองว่าปลายทางคุณจะสวยงามแน่นอน
ขอย้ำอีกครั้งนะคะว่าการออกกำลังกายและควบคุมการทานนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณทำได้นั้นจะดีกับตัวเองมากๆและผลลัพธ์นั้นก็เกิดขึ้นกับคุณล้วนๆค่ะ คนที่ได้ประโยชน์ครั้งนี้ก็คือตัวคุณเอง
แต่ถ้าหากคุณมีสัญญาณใดสัญญาณหนึ่งในจำนวนข้างต้นที่กล่าวมาแล้วละก็ อย่าลืมลองพิจารณาให้เทรนเนอร์เข้ามาแนะนำนะคะ เลือกคนที่คุณมั่นใจ ไว้ใจ และเชื่อใจ
สำหรับใครที่สนใจโปรแกรม Fitstar ซึ่งตอนนี้ยังเปิดรับสมัครอยู่แล้วละก็สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาทางเพจ Fit Kab Dao ได้เลยค่ะ ยินดีที่จะดูแลและให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่ค่ะ เจอกันในโปรแกรมนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น