จากคนที่ตามไอจีหรือเฟสบุ๊คของดาวมาซักพักจะเห็นว่าดาวเป็นคนชอบกินมากๆ ซึ่งดาวเชื่อว่าหลายๆคนที่นี่ก็ชอบเหมือนกัน แต่ปัญหาคือเมื่อเราอยากลดน้ำหนัก เข้าไปอ่านบทความไหนก็บอกให้กินอันนั้น ห้ามกินอันนี้ ทำให้การลดน้ำหนักมันยากเย็นเหลือเกิน ทำให้เราคิดว่ามันไม่เหมาะกับเราทำไม่ได้หรอก ก็เป็นแบบนั้นจริงๆคือเวลาเราเคร่งมากๆมันทำได้ไม่นาน เราจะท้อแล้วล้มเลิกไป

ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าจริงๆแล้ววิธีที่กินอาหารลดน้ำหนักที่ถูกต้องในการลดน้ำหนักแบบระยะยาวควรจะเป็นแบบไหน

หลักการอะไรให้กินคลีนได้นานๆ?

หลายๆคนอาจเคยได้ยินกฏ 80/20 ที่หมายถึงโภชนาการ 80 เปอร์เซ็นต์ ออกกำลังกาย 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นหลักการที่ดาวเองก็เห็นด้วย เหมือนคำกล่าวที่ว่าคุณกินอะไรก็จะเป็นแบบนั้น ดังนั้นสำคัญอย่างมากค่ะที่เราต้องระวังอย่างมากในเรื่องของการกิน แต่ดาวเชื่อภายใน 80 เปอร์เซ็นต์เราจะทำได้เต็มทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นดาวว่าในเรื่องของการกินก็สามารถแบ่งได้เป็น 80/20 เช่นกันค่ะ

ดาวขอเรียกกฏการกิน 80/ 20 นี้ว่าเป็นกฏแห่งการลดน้ำหนักแบบยั่งยืนนะคะ เพราะความหมายของมันคือเวลาส่วนใหญ่เราเลือกกินคลีนแต่ก็มีเวลาที่เรากินสิ่งที่ชอบบ้าง เรียนว่าบาลานส์ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์นั่นเองค่ะ

หลักการเลือกกินในเวลาส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์

กินคลีน หลักการจริงๆไม่ได้ยุ่งยาก สำหรับดาวในการเลือกทานอาหารคลีนจะพิจารณาจาก

• เลือกทานผักผลไม้ เพราะใกล้กับธรรมชาติที่มันเป็นมากที่สุด
• อาหารที่ทำเอง เราจะรู้ว่าใส่อะไรเข้าไปบ้าง เพราะถ้าไปกินข้าวนอกบ้านเราจะไม่รู้เลยว่าอาหารที่เรากินเค้าใส่อะไรลงไปบ้าง แต่บางครั้งอาหารที่เราทำรสชาติจะไม่ถึงเท่าไหร่ ดังนั้นดาวจึงทานคู่กับน้ำพริกหรือเครื่องเทศเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นค่ะ
• หลีกเลี่ยงอาหารที่ถูกใส่ในพลาสติกหรือกล่องเพราะนั่นหมายความว่าอาหารถูกใส่สารกันบูดเรียบร้อย แต่บางทีมันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ไม่ว่ากันค่ะ

การกินคลีนแบบไหนที่ดีควรดูจาก

• ร่างกายของเราให้ผลตอบรับดีไหม กินแบบนี้แล้วมีความสุขหรือหดหู่มากกว่ากัน? จากที่ร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน บางทีการกินแแบบนี้ให้ผลดีกับเขาแต่อาจไม่ใช่กับเรา ดังนั้นให้ลองหลายๆวิธีแล้วเลือกที่ดีที่กับตัวเองค่ะ
• กินคลีนแบบนี้มันเข้ากับไลฟ์สไตล์เราไหม
  เพราะการกินคลีน ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารการกินเท่านั้นแต่มันคือส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเราด้วย ดังนั้นบางอย่างเราไม่สามารถบังคับมันได้เลยอย่าง แพ้อาหาร อาชีพการงาน หรือยิ่งเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว ดังนั้นควรดูว่าการกินคลีนแบบไหนที่เหมาะกับเราจริงๆค่ะ

 หลักการกิน 20 เปอร์เซ็นที่เหลือ

กินสิ่งที่ชอบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน สัมตำ คุกกี้ เค้ก สมมุติว่าถ้าคุณอยากกินเค้ก กินให้หายอยาก กินช้าๆ จะรู้สึกว่าเค้กก้อนนั้นจะอร่อยมาก พอกินเสร็จก็กลับไปกินคลีนเหมือนเดิม

ถ้าเราถูกห้ามไม่ให้กินอะไรบางอย่าง อยู่ดีๆทั้งที่ร้อยวันพันปีไม่คิดอยากจะกิน ก็อยากขึ้นมาเสียดื้อๆ แล้วพอได้กินแค่นั้นแหละตบะแตกทุกครั้งไป

สาเหตุของมันคือ เมื่อเราคิดว่าเรากินสิ่งนั้นไม่ได้ เราจะรอจนถึงวันชีทเดย์ พอถึงวันนั้นเราก็จัดหนักเพราะรอมานาน แล้วคิดว่าอีกนานกว่าจะได้กินอีก ทำให้หลายๆครั้งเป็นเหตุผลหนึ่งที่น้ำหนักขึ้นทั้งที่ยังไม่ได้เริ่ม สุดท้ายคือรู้สึกผิดแล้วคิดว่าการกินคลีนเป็นเรื่องยาก เลยล้มเลิกกันไป การลดน้ำหนักเลยไม่เคยจะประสบความสำเร็จสักที

แล้วจะทำยังให้มีความสุขกับการกินคลีน?

หลักการตามที่ดาวพูดไปข้างบนคือ

• เลือกอาหารที่ใกล้เคียงกับสภาพเดิมมากที่สุด
• หลีกหลี่ยงอาหารสำเร็จรูปและอาหารขยะ
• ถ้าวันไหนที่หลุดไปก็ไม่ต้องรู้สึกผิด คิดซะว่าเป็น 20 เปอร์เซ็นต์แล้วกลับไปกินคลีนต่อถ้าวันไหนอยากกินจริงๆให้เลือกอาหารที่คลีนกว่า อย่างเช่นดาวชอบกินคุกกี้ ดาวก็จะเลือกคุกกี้ที่ไม่มีของแถมพวก มากาลีน เนยเทียม สีผสมอาหาร น้ำตาลเยอะๆอย่างคุกกี้จาก 7 Days Cookies “Low carb, High happiness”

นอกจากที่คุกกี้จะมีรสชาติที่ลงตัวแล้วยังมีหลากหลายรสชาติให้เลือกทานได้แบบไม่น่าเบื่อ ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 รสชาติค่ะ

***Original Grains***

สูตรนี้เป็นสูตรที่ดาวชอบที่สุดค่ะ เพราะว่ารสชาติของเขาจะมีความกลมกล่อมซึ่งเข้ากันได้ดีกับกาแฟ ด้วยความที่ดาวเป็นคนชอบดื่มกาแฟและไม่ชอบทานหวานมาก ดาวจึงมักจะทานพร้อมกับกาแฟในช่วงเช้าของทุกๆวัน เพราะนอกจากจะอร่อยแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องน้ำตาลด้วยค่ะ เพราะตัวของคุกกี้นี้ส่วนผสมหลักคือข้าวโอ๊ตและธัญญาหาร ทำให้มีแป้งและน้ำตาลน้อยเมื่อเทียบกับคุกกี้ทั่วๆไป

สิ่งที่ดาวชอบที่สุดในคุกกี้สูตรนี้ ก็คือธัญญาหารทั้งหมดค่ะ อย่างเช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์และลูกเกด เป็นต้น ซึ่งธัญญาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของไขมันดี โดยจะมีคุณสมบัติในเรื่องของการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดและยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้

ในส่วนของรสชาตินะคะ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือเขาจะมีรสที่กลมกล่อมเหมือนเทียบกับอีก 2 รส นอกจากนี้ก็ยังไม่ให้รสหวานติดลิ้นอีกด้วย

***Mocha Fever***
สูตรนี้นะคะเป็นสูตรที่กัดไปแค่เพียงคำแรก ก็ได้กลิ่นของความเป็นกาแฟเลยค่ะ ดาวชอบสูตรนี้รองมาจากสูตร Original Grains เพราะว่าดาวชอบดื่มกาแฟค่ะ แต่สูตรนี้ดาวมักจะหยิบมาทานบ่อยๆในเวลาที่ดื่มนมค่ะ เพราะรสชาติของเขาจะตัดกัน แต่เมื่อทานคู่กันแล้วกลับเข้ากันได้ดีมากๆค่ะ

โดยสูตรนี้นะคะ ความพิเศษของเขาจะอยู่ที่ส่วนผสมที่เป็นงาขาวและงาดำค่ะ ซึ่งจะมีคุณสมบัติก็คืองาจะมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่าและยังมากด้วยวิตามินบีชนิดต่างๆ ซึ่งดีต่อระบบประสาท ช่วยทำให้นอนหลับและร่างกายกระฉับกระเฉงอีกด้วยค่ะ
***Nutty Choc Chip***
สูตรนี้นะคะ จะแตกต่างกับ 2 สูตรด้านบนคือเขาจะมาด้วยส่วนผสมของช็อคโกแลตชิพเข้มข้น ฟังดูอาจจะน่ากลัวใช่ไหมคะ? ดาวเองก็คิดแบบนั้นในตอนแรกเพราะดาวเป็นคนไม่ชอบทานหวาน ก็เลยกังวลว่าสูตรนี้จะหวานไปไหมนะ แต่พอได้ชิมแล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดเลยค่ะ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีช็อคโกแลตเป็นส่วนผสม แต่กลับไม่ให้ความรู้สึกว่าหวานจนติดลิ้นหรือหวานจนเลี่ยนทั้งสิ้นค่ะ

ดังนั้นสูตรนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบทานช็อคโกแลต แต่ไม่อยากรู้สึกผิดจากการทานของหวานแน่นอนค่ะ

จากที่ดาวชอบออกกำลังกายแต่เช้าเพราะรู้สึกว่าพอเราออกตอนเช้าเสร็จรู้สึกสดชื่นดีค่ะ แต่ปัญหาคือตอนเช้าๆถ้าจะกินมื้อเช้าหนักๆเช้าไปต้องรอถึง 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ย่อยอาหารที่ทานเข้าไปก่อนที่เราจะออกกำลังกายค่ะ ดังนั้นสิ่งที่ดาวทำคือจะเลือกกินอาหารมื้อเล็กๆ แต่มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน เพื่อให้มีแรงออกกำลังกายค่ะ

 

ดังนั้นเพื่อความสะดวกรวดเร็วในชั่วโมงเร่งรีบแบบนี้ ดาวจึงเลือกคุกกี้ 7 Days Cookies “Low carb, High happiness” สักชิ้นก็เอาอยู่ค่ะ เพราะนอกจากสารอาหารที่ครบถ้วนภายในชิ้นเดียวแล้ว ส่วนผสมแต่ละอย่างก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์จากออร์แกนิค รวมถึงการไม่ใส่วัตถุกันเสียและไม่ผสมมาการีน ทำให้ดาวมีความสุขกับการทานคุกกี้โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของสุขภาพอีกต่อไปค่ะ

สำหรับใครที่สนใจช่องทางในการสั่งซื้อคือ 7 Days Cookies “Low carb, High happiness”

ราคา 249 ต่อกล่อง มีคุกกี้ 10 ชิ้น

ถ้าใครยังไม่เคยลอง รีบไปสอยเลยค่า

สุดท้ายนี้อยากให้กำลังใจกับคนที่ลดน้ำหนัก ให้อย่าเคร่งเกินไป ทำเท่าที่ทำได้แต่ทำให้ดีที่สุด ในขณะเดียวกันก็อย่าหย่อนเกินไป เน้นการเกิดความสมดุลในการลดน้ำหนักแบบยั่งยืน รวมทั้งหาการกินคลีนที่เหมาะกับตัวเองให้เจอโดยการลองผิดลองถูก เรียนรู้จากคนอื่นได้แต่อย่าเชื่อทั้งหมด แต่ให้เป็นแนวทางในการเลือกของเราเองเพราะอย่างที่บอกคือร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกันไปค่ะ

หากชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์ เพจเฟสบุ๊ค เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆนะคะ

---