READING

17 วิธี สร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย...

17 วิธี สร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย

แรงบันดาลใจออกกำลังกาย

สวัสดีค่ะ แปปๆก็จะสิ้นปีแล้วนะคะ ต้นปีนี้คุณมีเป้าหมายอะไรบ้าง ส่วนดาวได้ตั้งเป้าว่าปีนี้จะออกกำลังกายทุกวันค่ะ ซึ่งพอหันกลับไปดูทำได้อยู่ 80 เปอร์เซ็นต์ส่วนที่เหลือมาจากวันที่เรารู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย อย่างอาทิตย์ที่ประจำเดือนมา หรือวันที่ขี้เกียจสุดๆเชื่อว่าทุกคนก็เป็นเหมือนกันค่ะ

แต่ไม่ว่าคุณตั้งเป้าหมายอะไรไว้ก็ควรภูมิใจที่ถึงแม้เราอาจทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ขาดหายไปบ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ เน้นความสมดุลที่ทำแล้วรู้สึกดี ซึ่งจะเป็นผลดีในระยะยาวค่ะ

อีกสิ่งหนึ่งที่ดาวดีใจมากนอกจากออกกำลังกายในปีนี้คือดาวได้ตัดสินใจทำกลุ่ม ชาเลนจ์ฟิตกับดาว ขึ้นเหมือนเป็นสะพานเชื่อมให้ได้รู้จักกับคนใหม่ๆที่ชอบสิ่งเดียวกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อให้ถึงเป้าหมายได้ไวขึ้นและเป็นพลังบวกให้กันและกัน เพื่อให้ทุกคนมีกำลังใจและแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายต่อไปเรื่อยๆค่ะ

เฮลตี้ไลฟ์สไตล์

ถ้าคนที่ทำอยู่จะรู้ซึ้งเลยค่ะ ว่ามีข้อจำกัดยังไง คนนั้นบอกห้ามกินอันนั้นจะอ้วน คนนี้บอกต้องกินอันนี้ บางทีก็ไม่รู้จะฟังใคร แต่สิ่งที่ดาวใช้กับตัวเองก็คืออย่างเรื่องอาหาร ถ้าไม่รู้จริงๆ จะดูว่าอันไหนให้เลือกสิ่งที่ใกล้สภาพเดิมมากที่สุด ผ่านการปรุงแต่งน้อย ก็จะเลือกอันนั้นค่ะ แล้วเวลากินฝึกให้ตัวเองให้ชอบรสชาติของมันจริงๆไม่ใช่สารปรุงแต่ง ยกตัวอย่างนะคะอย่างเมื่อก่อนดาวชอบดื่มกาแฟใส่น้ำตาลเยอะๆ ก็เริ่มฝึกตัวเองให้ดื่มหวานน้อยจนตัดน้ำตาลไปเลย พอเราฝึกไปทีละนิดเราจะรู้สึกชอบรสชาติของกาแฟจริงๆค่ะไม่ใช่ความหวานของน้ำตาล ทีแรกจะรู้สึกไม่ค่อยชินแต่พอทำไป จะติดเป็นนิสัยค่ะ

ยังไงก็ตามไลฟ์สไตล์แบบนี้ถึงจะยากแค่ไหนแต่รางวัลที่เส้นชัยงดงามเสมอค่ะ หลายคนอาจคิดว่าทำแบบนี้เพราะอยากหุ่นดี ก็ถูกค่ะ แต่จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นแค่ผลพลอยได้จากสุขภาพข้างในของเราค่ะ ลองคิดว่าคุณเป็นต้นไม้ต้นหนึ่งถ้าได้แร่ธาตุสารอาหารที่ดีก็อุดมสมบูรณ์ทำให้เกิดผลอุดมสมบูณ์ตามด้วย

การกินอาหารขยะมื้อเดียวไม่ได้ทำให้อ้วนขึ้นในทางเดียวกันกินคลีนหรือออกกำลังกายเพียงครั้งเดียวก็ไม่ทำให้หุ่นดีขึ้นมาทันตา แต่ทุกอย่างย่อมใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอ

ฟังดูแล้วเหมือนจะทำง่ายๆแต่ถ้าพูดถึงความจริงที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีใครขยันออกกำลังกายทุกวันหรอกค่ะ แต่ต้องมีบางวันที่ไม่อยากออกกำลังกายกันบ้าง ดังนั้นดาวอยากแบ่งบันวิธีสร้างแรงบันดาลใจเหล่านี้ที่จะช่วยให้คุณอยากออกกำลังกายในวันที่ขี้เกียจสุดๆค่ะ

1.ใส่ชุดออกกำลังกาย

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Dao Wipha (@fitkabdao) on

วันไหนที่ไม่อยากออกกำลังกายลองหยิบชุดออกกำลังกายมาใส่ค่ะ จากนั้นให้มองตัวเองในกระจก มันจะรู้สึกเเปลกๆค่ะถ้าใส่ชุดแล้วไม่ออกเลยดังนั้นเลยกะจะออกนิดเดียวแต่พอเริ่มทำก็เลยเถิด พอรู้ตัวอีกทีก็ทำเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยค่ะ

2.หาเพื่อนไปออกกำลังกายด้วย

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Dao Wipha (@fitkabdao) on

 ปัญหาที่แก้ยากคือความขี้เกียจไปยิมแต่ถ้าไปถึงจริงๆ พอเห็นคนออกกำลังกายก็อยากออกตาม แต่ถ้าครั้งไหนที่ดาวนัดเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกันจะรู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษค่ะ คิดอยู่ตลอดว่าวันนี้จะออกท่าไหนบ้างจนลืมความขี้เกียจในการออกกำลังกายไปเลยค่ะ ดังนั้นวันไหนขี้เกียจลองชวนเพื่อนไปด้วยนะคะ ออกไปคุยไปก็สนุกอีกแบบค่ะ

3.ดูรูปคนหุ่นดีๆได้กำลังใจเยอะเลย

วันไหนขี้เกียจจริงๆลองหารูปหรือวีดีโอในเฟส ไอจีเต็มไปหมดเลยค่ะ จากนั้นลองคิดว่าถ้าไปออกกำลังกายวันนี้จะได้หุ่นแบบนางแบบที่เราดู รับรองว่าได้พลังเกินร้อยค่ะ

4.คิดถึงความรู้สึกดีๆหลังออกกำลังกายเสร็จ

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Dao Wipha (@fitkabdao) on

หลังจากออกกำลังกายแล้วร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนตัวหนึ่งที่เรียกว่าเอ็นโดรฟินหรือที่เรารู้จักกันดีคือ ‘สารแห่งความสุข’ มีคุณสมบัติช่วยลดบรรเทาอาการปวด ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มความตื่นตัว มีชีวิตชีวา และชะลอความเสื่อมของร่างกาย ดังนั้นหลังจากที่ออกกำลังกายลองสังเกตตัวเองว่ารู้สึกดีแค่ไหนจากนั้นจำให้ได้มากที่สุดทุกรายละเอียด พอวันไหนที่ขี้เกียจลองคิดดูความรู้สึกตอนนั้นค่ะ

5.เข้าคลาส

ทุกครั้งที่ดาวไปออกกำลังกายกับกลุ่มในคลาสรู้สึกว่าทำได้มากกว่าที่ตัวเองจะออกกำลังกายเองค่ะ เหตุผลหลักๆคือไม่อยากอับอายชาวบ้านค่ะ เพราะทุกคนยังทำได้เรื่องอะไรเราจะหยุด  ปัจจุบันยิมส่วนมากจะมีคลาสให้เล่นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโยคะ เต้นซุมบ้า ชกมวย คาร์ดีโอ้แบบต่างๆ ครั้งหนึ่งก็ไม่เกินร้อยคุ้มที่จะลงทุนค่ะ

6.ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ


ลองทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบและได้ออกกำลังกายไปโดยในตัว อย่างเช่น ว่ายน้ำ ปีนเขา กระโดดเชือกได้ทั้งความสนุกและเบิร์นแคลอรี่ไปด้วยค่ะ

7.วิ่งเพื่อถ่ายรูป

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Dao Wipha (@fitkabdao) on

บางทีการวิ่งไปที่ต่างๆอย่างตอนเย็น นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังได้ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกด้วยค่ะ หรือวิ่งรอบๆแม่น้ำก็ได้ความรู้สึกอีกแบบค่ะ

8.ชอบกินก็ต้องชอบออกด้วย


ข้อนี้สายกินก็มาค่ะ เข้าใจค่ะบางทีกินคลีนแต่เผลอกินปริมาณมากไปหน่อย เพื่อความสมดุลถ้าอยากกินเยอะแล้วไม่อ้วนก็ต้องเผาผลาญกันไปให้มากกว่าที่กินค่ะ 

9.สระผมหลังออกกำลังกายเท่านั้น

อันนี้แล้วแต่นะคะ แต่ดาวใช้แล้วได้ผลค่อนข้างดีค่ะ คือจะสระผมหลังออกกำลังกายเสร็จเท่านั้น ถ้าอยากสระทุกวันก็ต้องออกกำลังกายให้เหงื่อออกทุกวันค่ะ

10.ท้าตัวเองให้ทำต่ออีกนิด


ลองอัดวีดีโอหรือจดสิ่งที่เราทำได้ในวันนี้ค่ะ ตัวอย่างเช่น วันนี้แพลงค์ได้ 30 วิ,วิดพื้นได้ 5 ครั้ง,สควอดได้ 20 กิโล จากนั้นการออกกำลังกายครั้งต่อไปทำให้ได้ดีกว่าเดิมค่ะ เช่น แพลงค์ได้ 35 วิ,วิดพื้นได้ 6 ครั้ง,สควอดได้ 20.5 กิโล ไม่จำเป็นต้องได้เยอะมากๆแต่ขอให้เยอะกว่าเดิมนิดหนึ่งก็ยังดีค่ะ

11.มีแผนในการออกกำลังกายแต่ละวัน

ในแต่ละวันแพลนล่วงหน้าไว้เลยค่ะว่าจะออกอะไรบ้าง อย่างในโปรแกรมเราก็รู้ว่าจะทำท่าอะไรบ้าง ก็จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ ถ้าไม่มีแพลนจะไม่อยากออกกำลังไปเลยเพราะไม่รู้ว่าจะทำท่าอะไรบ้าง

12.ถามตัวเองว่า ถ้าฉันไม่ออกวันนี้ จะรู้สึกผิดไหม

เลือกดูว่าระหว่างออกกำลังกายให้จบๆไปเลย หรือวันนั้นทั้งวันรู้สึกผิดที่ไม่ได้ออกกำลังกายค่ะ

13.แอบแข่งกับคนข้างๆ

ข้อนี้อ่านแล้วอาจฟังดูไม่ค่อยดีนะคะ แต่อย่าคิดมากค่ะให้คิดเล่นๆว่าเรากำลังแข่งกับคนข้างๆหรือแข่งกับเพื่อน เราจะมีแรงเพิ่มขึ้นอัตโนมัติค่ะ

14.สมมุติว่าตัวเองเป็นเทรนเนอร์หรือครูสอน

ทุกครั้งที่รู้สึกว่าทำไม่ได้แล้ว อยากหยุดตรงนั้นเลย ให้ลองคิดว่าตัวเองกำลังนำออกกำลังกายให้นักเรียนดู หรือคนทั้งยิมกำลังดูเราทำอยู่ เราจะหยุดกลางคันแบบนี้ไม่ได้แน่นอน

15.ออกกำลังกายกับคนที่ให้กำลังใจตอนที่เราจะทำไม่ได้แล้ว


คนที่ตะโกนเสียงดังๆหรือพูดให้กำลังใจตอนเรากำลังทำสควอชหรือตอนที่เหนื่อยสุดๆช่วยได้มากเลยค่ะ เราจะมีแรงฮึบสู้ให้ทำได้เพิ่มสักสองหรือสามครั้ง ซึ่งความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นจากสองหรือสามครั้งที่เราฝืนตัวเองนั่นแหละค่ะ

16.ลองคิดดูว่าตัวเองแข็งแรงขึ้นขนาดไหน


จำได้ว่าครั้งแรกที่ดาวออกกำลังกาย ผอมแห้งแรงน้อยยกอะไรไม่ขึ้นสักอย่างค่ะ แต่ตอนนี้ถึงจะยกได้ไม่มากแต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนจะเห็นได้ชัดเลยค่ะว่าแข็งแรงขึ้นมาก ดังนั้นถ้าขี้เกียจให้ลองเทียบตัวเองในอดีตกับปัจจุบันค่ะแล้วดูว่าการออกกำลังกายที่เราทำอยู่มันได้ผลขนาดไหน ลองคิดดูว่าถ้าทำต่อเรื่อยปีหน้าต่อๆไปจะแข็งแรงแค่ไหน

17.บอกกับตัวเองว่า “ฉันทำได้!”

ทำได้หรือไม่ได้เป็นเรื่องความคิดทั้งนั้นค่ะ ถ้าบอกตัวเองว่าทำไม่ได้ก็จะทำไม่ได้จริงๆแต่ถ้าคิดว่า ฉันทำได้คุณก็ทำสำเร็จไปแล้วครึ่งทางแล้วค่ะ

นอกจากที่กล่าวมาข้างบนคุณใช้วิธีอื่นที่สร้างแรงบันดาลใจกับตัวเองไหมคะ?


เป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ชอบทำอาหาร ชอบอ่านหนังสือที่ไม่ใช่หนังสือเรียน หาเวลาเที่ยวตลอดเวลา รักทะเล ภูเขา ติดกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ และเขียนบล็อกเพราะอยากให้ทุกคนที่ได้อ่านหันมาดูแลสุขภาพ ได้แรงบันดาลใจ และรู้จักเพื่อนใหม่ๆ

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

Your email address will not be published. Required fields are marked *